การฆ่าตัวตายกลับมาติด 1 ใน 10 สาเหตุการเสียชีวิตของคนไต้หวัน หลังห่างหายไป 14 ปี

Mookda Narinrak

ค้นพบเคล็ดลับสุขภาพและโภชนาการ ที่จะช่วยให้คุณมีพลังงานเต็มเปี่ยมและชีวิตที่สมดุล เรานำเสนอเนื้อหาหลากหลายเกี่ยวกับอาหารที่ดีต่อสุขภาพ วิธีลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย และแนวทางป้องกันโรคต่างๆ เพื่อให้คุณมีสุขภาพดีในระยะยาว

แท็ก


ลิงค์โซเชียล



สารบัญ

  1. การฆ่าตัวตาย กลับมาเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตอีกครั้ง
  2. สถิติและแนวโน้มการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย
  3. โครงการสนับสนุนสุขภาพจิตสำหรับวัยทำงาน ได้ผลตอบรับดี
  4. การฆ่าตัวตายมีสาเหตุหลายด้าน – มาตรการป้องกันแบบหลายชั้น
  5. การเลื่อนอันดับของการฆ่าตัวตาย สัมพันธ์กับการลดลงของโรคอื่น
  6. การเสียชีวิตจากความชราอย่างเป็นธรรมชาติ
  7. ข้อความจากสังคม: การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออก จงกล้าที่จะขอความช่วยเหลือ
  8. Q&A

การฆ่าตัวตาย กลับมาเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตอีกครั้ง

กระทรวงสาธารณสุขไต้หวันได้ประกาศสถิติการเสียชีวิตของประชาชนในปี 2024 โดยพบว่า “การทำร้ายตนเองโดยเจตนา (การฆ่าตัวตาย)” ซึ่งเคยหลุดจาก 10 อันดับแรกมาตั้งแต่ปี 2011 ได้กลับขึ้นมาติดอันดับอีกครั้งในรอบ 14 ปี โดยพบว่าอัตราการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นในทุกช่วงอายุระหว่าง 15 ถึง 64 ปี

ดร.เจิ้ง ซู-ซิน รักษาการผู้อำนวยการกรมสุขภาพจิตของกระทรวงฯ กล่าวว่าการฆ่าตัวตายถือเป็นความท้าทายสำคัญในหลายประเทศแถบเอเชีย โดยในกลุ่มวัยรุ่น ปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวข้องกับการใช้สื่อออนไลน์ การหย่าร้างของพ่อแม่ และปัญหาการนอนหลับ KUBET ส่วนในกลุ่มวัยทำงานและวัยกลางคน ยังคงต้องวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

หัวข้อรายละเอียด
สถานการณ์การฆ่าตัวตายกลับมาเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตอีกครั้ง
ปีข้อมูล2024
แหล่งข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขไต้หวัน
ประวัติเคยหลุดจาก 10 อันดับแรกตั้งแต่ปี 2011 และกลับมาติดอันดับในรอบ 14 ปี
กลุ่มอายุที่พบอัตราเพิ่มขึ้นอายุ 15 ถึง 64 ปี
ผู้ให้ข้อมูลดร. เจิ้ง ซู-ซิน (รักษาการผู้อำนวยการกรมสุขภาพจิต)
ปัจจัยเสี่ยงวัยรุ่นการใช้สื่อออนไลน์, การหย่าร้างของพ่อแม่, ปัญหาการนอนหลับ
ปัจจัยวัยทำงาน/วัยกลางคนยังต้องวิเคราะห์เพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุแท้จริง

สถิติและแนวโน้มการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย

คุณหลู ซู-จวิน หัวหน้ากองสถิติของกระทรวงฯ ระบุว่า KUBET ปีที่แล้วมีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายรวม 4,062 ราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 164 ราย หรือราว 4.2% คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตมาตรฐาน 13.4 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน

แม้ว่าในกลุ่มอายุ 0-14 ปี และผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปจำนวนผู้เสียชีวิตจะลดลงKUBET  แต่ในกลุ่มอายุ 15-64 ปี กลับพบว่าอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นในทุกช่วงอายุ

โครงการสนับสนุนสุขภาพจิตสำหรับวัยทำงาน ได้ผลตอบรับดี

ดร.เจิ้งกล่าวว่า เนื่องจากพบแนวโน้มการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นในกลุ่มวัยทำงาน KUBET กระทรวงฯ จึงได้เปิดตัวโครงการสนับสนุนสุขภาพจิตสำหรับวัยรุ่นและวัยทำงาน (อายุ 15–45 ปี) ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2024 จนถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 มีผู้รับบริการสะสมกว่า 54,000 ราย (รวมกว่า 139,000 ครั้ง) โดยมีอัตราความพึงพอใจสูงถึง 96% KUBETซึ่งสะท้อนถึงความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มประชากรนี้

การฆ่าตัวตายมีสาเหตุหลายด้าน – มาตรการป้องกันแบบหลายชั้น

กระทรวงฯ เน้นว่าการฆ่าตัวตายไม่ได้เกิดจากสาเหตุเดียว KUBET จำเป็นต้องมีการป้องกันในหลายระดับ ทั้งมาตรการทั่วไป มาตรการเฉพาะกลุ่ม และมาตรการชี้เป้า พร้อมส่งเสริมวัฒนธรรม “ช่วยตนเอง ขอความช่วยเหลือ KUBET และช่วยเหลือผู้อื่น”

มาตรการที่แนะนำ เช่น การใช้แบบประเมินสุขภาพจิตแบบย่อ (BSRS-5), การใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิตฟรี 1925 ตลอด 24 ชั่วโมง, การรับคำปรึกษาจากศูนย์สุขภาพจิตในชุมชน รวมถึงการฝึกอบรม “ผู้เฝ้าระวังการฆ่าตัวตาย” และการนำหลักสูตรการปฐมพยาบาลด้านสุขภาพจิตจากออสเตรเลียมาใช้ KUBET เพื่อช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในภาวะวิกฤตทางจิตใจ

การเลื่อนอันดับของการฆ่าตัวตาย สัมพันธ์กับการลดลงของโรคอื่น

คุณหลี่ ชิว-เยี่ยน ผู้อำนวยการกองสถิติ ระบุว่า สาเหตุที่การฆ่าตัวตายขยับขึ้นในการจัดอันดับ เกี่ยวข้องกับความสำเร็จในการควบคุมโรคตับและตับแข็ง ทำให้โรคเหล่านั้นลดอันดับลง KUBET จึงทำให้การฆ่าตัวตายเลื่อนขึ้นมาแทน

การเสียชีวิตจากความชราอย่างเป็นธรรมชาติ

การเสียชีวิตที่เกิดจากความชราโดยไม่มีโรคร้ายแรงติดอันดับที่ 13 ของสาเหตุการเสียชีวิตในประเทศ โดยผู้เสียชีวิตมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 90 ปี แสดงให้เห็นว่ามีจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างสงบเพิ่มขึ้น

ข้อความจากสังคม: การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออก จงกล้าที่จะขอความช่วยเหลือ

สื่อและภาครัฐต้องการเน้นว่า “การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางแก้ปัญหา” การขอความช่วยเหลือไม่ใช่ความอ่อนแอ สังคมยังมีความอบอุ่น KUBET และยังมีคนพร้อมจะรับฟังและช่วยเหลือ

Q&A

1. เหตุใดการฆ่าตัวตายจึงกลับมาติด 1 ใน 10 สาเหตุการเสียชีวิตของไต้หวันอีกครั้งในปี 2024?

ตอบ: เพราะอัตราการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นในกลุ่มอายุ 15–64 ปี และโรคตับ/ตับแข็งที่เคยอยู่ใน 10 อันดับแรกมีจำนวนลดลง ทำให้การฆ่าตัวตายเลื่อนอันดับขึ้นมาแทน


2. กลุ่มอายุใดที่มีอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นมากที่สุด?

ตอบ: กลุ่มอายุ 15–64 ปี ซึ่งรวมวัยรุ่น วัยทำงาน และวัยกลางคน


3. โครงการสนับสนุนสุขภาพจิตของกระทรวงสาธารณสุขไต้หวันเริ่มดำเนินการเมื่อไร และมีผลตอบรับอย่างไร?

ตอบ: เริ่มในเดือนสิงหาคม 2024 ถึงพฤษภาคม 2025 มีผู้ใช้บริการสะสมกว่า 54,000 ราย และมีความพึงพอใจสูงถึง 96%


4. มาตรการใดที่ใช้เพื่อป้องกันการฆ่าตัวตายในไต้หวัน?

ตอบ: ใช้หลายมาตรการ เช่น แบบประเมินสุขภาพจิต BSRS-5, สายด่วน 1925, ศูนย์สุขภาพจิตชุมชน, การอบรมผู้เฝ้าระวัง และการนำหลักสูตรปฐมพยาบาลสุขภาพจิตมาใช้


5. ข้อความสำคัญที่ภาครัฐและสังคมต้องการสื่อถึงผู้มีภาวะเสี่ยงคืออะไร?

ตอบ: “การฆ่าตัวตายไม่ใช่ทางออก” และ “การขอความช่วยเหลือไม่ใช่ความอ่อนแอ” ยังมีคนพร้อมรับฟังและช่วยเหลือเสมอ



เนื้อหาที่น่าสนใจ: